บริการเว็บโฮสติ้งก็ยังแบ่งได้อีกหลายแบบหลายชนิดขอแนะนำแต่ละชนิดแบบง่ายๆดังนี้
1. Shared Hosting เป็นบริการเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ธรรมดาทั่วไปเว็บเดียวเช่นเว็บส่วนตัวบริษัทองค์กรฯลฯ ตามที่ชื่อบอก shared hosting ก็คือการซอยพื้นที่ในเครื่องเซิฟเวอร์มาให้เช่า ดังนั้น ทรัพยากรของเครื่องจะถูกแชร์กันหลายผู้ใช้งาน shared hosting เป็นบริการที่นิยมกันทัวไปเพราะราคาไม่สูง
2. VPS Hosting บริการเซิร์ฟเวอร์เสมือนบริการที่เหมือนกับมีเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองVPS ย่อมาจาก Virtual Private Server โดยสามารถจัดการได้ผ่าน Remote desktop connection เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีความต้องการที่จะใช้งานโปรแกรมหรือ Application เสริมเฉพาะที่บริการ Shared Hosting ไม่มีหรือไม่อนุญาตให้ติดตั้งเพื่อใช้งานเนื่องจากบริการนี้สามารถติดตั้งโปรแกรมหรือ Application ได้ตามใจชอบและยังเหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีการเข้าชมสูงเนื่องจากการใช้งานของ Data Transfer รวมทั้ง Bandwidth จะถูกแบ่งการใช้งานชัดเจนไม่แชร์ร่วมกับเว็บไซต์อื่นเหมือน Shared Hosting
3.Dedicated server บริการเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ของคุณใช้งานแต่เพียงผู้เดียวทั้งนี้อาจจะใช้งานหลายเว็บไซต์ (ที่เราดูแล) ก็ได้หรือจัดสรรแบ่งพื้นที่เพื่อขายเป็นบริการ Shared Hosting ก็ได้แต่โดยส่วนมากการใช้งานจะเหมาะสำหรับบริษัทองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่หรือเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการความเสถียรปลอดภัยและความรวดเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์เนื่องจากเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั้งเครื่องจะมีเพียงเว็บไซต์ของเราเท่านั้น
4.Reseller Hosting เป็นบริการสำหรับผู้ให้บริการจัดทำเว็บไซต์ผู้พัฒนาเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้กับลูกค้าที่มาจ้างทำเว็บไซต์หรือขายต่อในนามของตัวเองและยังเหมาะสำหรับคนที่มีหลายเว็บไซต์ที่ต้องดูแลเนื่องจากสามารถบริหารจัดการได้ผ่านระบบควบคุมเดียวควบคุมได้ทุกเว็บ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบริการหลักๆของเว็บโฮสติ้งเท่านั้น เนื่องจากบริการอาจถูกปรับเปลี่ยนและเรียกกันในชื่อบริการใหม่เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งแต่ละราย
ส่วนการเลือกบริการเว็บโฮสติ้งที่เหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงเว็บไซต์ของเราและการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่จำเป็นต้องซื้อบริการที่เกินความจำเป็นเพราะเว็บไซต์สามารถย้ายจากบริการเว็บโฮสติ้งที่เล็กกว่าไปใช้บริการเว็บโฮสติ้งที่ใหญ่ขึ้นได้ตลอดเวลาดังนั้นหากเราเพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์หรือเว็บไซต์ของเรายังไม่โตหรือขยายมากก็อาจจะเริ่มจากบริการขนาดเล็กก่อนเมื่อเว็บไซต์ของเรามีขนาดใหญ่ขึ้นผู้เข้าชมมากขึ้นเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงบริการได้ด้วยวิธีนี้จะทำให้เราไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นอีกด้วย